nn ตอบสนองนโยบายรัฐบาลเรื่องการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศได้รวดเร็วจริงๆ...สำหรับ กรมธนารักษ์…ขณะที่หน่วยงานอื่นขอรับอ้างว่างบประมาณถูกถึงออกไปจาก พ.ร.บ.โอนย้ายงบประมาณเพื่อไปใช้ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19...ต่างจากบิ๊กหยิม-ยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์...ที่ได้มอบนโยบายให้ ธนารักษ์จังหวัดทุกพื้นทั่วประเทศ...วางแผนจัดเวทีสัมมนาเพื่อพัฒนาศักยภาพในการทำงานของกรมธนารักษ์...ขึ้น 4 พื้นที่ครอบคลุม...ภาคเหนือ กลาง ใต้ และตะวันออก...เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระจายรายได้ไปยังภูมิภาคต่างๆ...!! งานนี้...แวดวงการเงิน...เห็นด้วยอย่างมาก...เพราะการท่องเที่ยวในประเทศหากจะพึ่งพากำลังซื้อของประชาชนทั่วไปคงยากที่จะชดเชยรายได้ที่หายไปจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้...คนส่วนใหญ่ของประเทศไม่มีเงินเหลือที่จะท่องเที่ยวได้เลย....จึงจำเป็นต้องอาศัยเงินงบประมาณจากภาครัฐเข้ามาช่วย...nn ก็ต้องยอมรับว่าน่าเสียดายที่...ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าแบงก์ชาติ...ไม่พร้อมที่จะรับตำแหน่งในทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่..ที่ท่านนายกรัฐมนตรีกำลังควานหาคนมาช่วย....แต่ก็ยังดีที่ท่านยังไม่ได้ห่างหายไปจากแวดวงเศรษฐศาสตร์...เพราะอย่างน้อยเราก็ยังได้เห็นผลงานวิจัยหรือคอมเมนท์ดีๆ ได้จากท่านในฐานะของคนของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)...nn วันก่อน นสพ.แนวหน้า...ในคอลัมน์ “หมุนตามทุน” ได้เขียนถึงการลงทุนของกรมสรรพสามิต ในโครงการติดตั้งระบบการตรวจสอบติดตามและแกะรอย(Track & Trace)แสตมป์ยาสูบ วงเงิน 3.3 พันล้านบาท....ซึ่งก็ได้รับเกียรติจาก คุณพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กรุณาชี้แจงข้อสงสัยต่างๆกลับมา...แต่ด้วยเนื้อหาที่ค่อนข้างจะมากและเพื่อให้เป็นธรรม...นสพ.แนวหน้า....จึงจะนำเสนอข้อชี้แจงของกรมสรรพสามิตใน “หมุนตามทุน” ที่จะตีพิมพ์ในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้..ส่วนจะมีควากระจ่างชัดจนทำให้สาธารณชนหายข้อสงสัยหรือไม่ หรือยังต้องมีประเด็นให้กรมสรรพสามิตอธิบายเพิ่มอย่างไร...เดี๋ยวได้รู้กัน...nn กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)...มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ (20-24 กรกฎาคม) ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.55-32.00 ต่อดอลลาร์ฯเทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 31.71 ต่อดอลลาร์ฯเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว...โดยเงินบาทยังคงเผชิญแรงขายอย่างต่อเนื่องและแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 1.2 พันล้านบาท และ พันธบัตรไทย 1.8 พันล้านบาท...ตลาดจะให้ความสนใจกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังเพิ่มเติมทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป หลังดอลลาร์แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับยูโรในสัปดาห์ที่ผ่านมา...สำหรับปัจจัยในประเทศ อยู่ที่มุมมองของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะกลับเข้าสู่ระดับก่อนการระบาดของ COVID-19 ได้ในปี 2565 ...และต้องรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายไว้ใช้หากสถานการณ์เลวร้ายลงจากความไม่แน่นอนสูง ขณะที่ทางการจะดูแลไม่ให้เงินบาทผันผวนมากเกินไปและกำลังศึกษามาตรการ Yield Curve Control หรือมาตรการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน....nn
อนันตเดช พงษ์พันธุ์
July 21, 2020 at 06:00AM
https://ift.tt/3eOzKDh
คอลัมน์โลกธุรกิจ - แวดวงการเงิน : 5 พฤษภาคม 2563 - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://ift.tt/3h2hF6O
Bagikan Berita Ini
0 Response to "คอลัมน์โลกธุรกิจ - แวดวงการเงิน : 5 พฤษภาคม 2563 - หนังสือพิมพ์แนวหน้า"
Posting Komentar