Search

ธอทเวิร์กเผยเทรนด์โลกการเงิน เมื่อ Invisible Banking กำลังมา - การเงินธนาคาร

iyobusiness.blogspot.com

เทคโนโลยีได้เข้ามาเป็นกุญแจสำคัญในโลกธุรกิจยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว หลายธนาคารประกาศสร้างมาตรฐานของตัวเองใหม่โดยตั้งเป้าสู่การเป็นบริษัท Technology Company มากกว่าการเป็น Universal Bank เหมือนในอดีต และในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมธนาคารกำลังดุเดือดจากการมาของบรรดา Big Tech ที่เข้ามาร่วมวงแข่งขันในตลาดบริการทางการเงิน ยิ่งทำให้ธนาคารต้องเร่งเดินหน้าทำ Digital Transformation เพื่อให้สามารถแข่งขันและอยู่รอดต่อได้ในอนาคต

นายเชา รัน ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรม บริษัท ธอทเวิร์ค (ประเทศจีน) กล่าวว่า อุตสาหกรรมธนาคารนั้นถือเป็นอุตสาหกรรมที่น่าจับตามองอย่างมาก เนื่องจากมีองค์ประกอบหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป ตั้งแต่แนวโน้มของอุตสาหกรรม คู่แข่งที่เข้ามาท้าทาย โดยธอทเวิร์คได้มองเห็นแนวโน้มของอุตสาหกรรมธนาคาร 4 เรื่อง ดังนี้

1. โมบายล์แพลตฟอร์มยังคงเป็น Big Trends ที่ทุกธนาคารจะต้องทำ เนื่องจากโมบายล์เป็นช่องทางที่ใกล้กับลูกค้ามากที่สุด โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่อัตราส่วนของการเข้าถึงบริการทางการเงินยังไม่ทั่วถึงเมื่อเทียบกับประเทศฝั่งยุโรปและอเมริกา ทำให้ผู้คนในเอเชียมีความนิยมในการใช้บริการผ่านช่องทางโมบายล์สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Pain Point ที่แตกต่างกันของแต่ละภูมิภาคก็มีส่วนทำพฤติกรรมของลูกค้าแตกต่างกัน เช่น ในอเมริกานั้น บริการทางการเงินอยู่ในจุดที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ แต่ผู้คนในฝั่งเอเชียนั้น การเข้าถึงบริการทางการเงินยังไม่ทั่วถึง ทำให้เกิดการเปลี่ยนมาใช้ช่องทางโมบายล์เพื่อที่จะได้เข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น ในประเทศจีนนั้นประชากรสามารถเข้าถึงบริการประเภทบัตรเครดิตและบัตรเดบิตได้สูงที่สุดคือ 50% แต่ในอเมริกานั้นประชากรสามารถเข้าถึงได้สูงถึง 93% ขณะที่บริการแบบโมบายล์นั้นประเทศจีนมีสูงถึง 95% แต่อเมริกามีสัดส่วนเพียง 45%

 2. สถาบันการเงินในเอเชียกำลังก้าวไปสู่การเป็น Invisible Banking โดยธนาคารในเอเชียกำลังนำเสนอบริการทางการเงินเข้าไปใน Customer Journey โดยที่ลูกค้าอาจไม่รู้เลยว่ากำลังใช้บริการธนาคารอยู่  เช่น การให้บริการชำระเงินแบบ Contactless หรือ QR Code ที่รวมพันธมิตรหลายรายมาอยู่ใน Ecosystem ของธนาคารเพื่อให้เงินไม่ไหลออกไปที่อื่น

“ในภาพใหญ่นั้นหากแข่งตรงๆรีเทลแบงกิ้งอาจไม่สามารถแข่งกับ Big Tech ได้ ธนาคารจึงไปจับมือกับผู้เล่นอื่นๆเพื่อให้สามารถเข้าไปให้บริการทางการเงินกับลูกค้าได้ในทุกการใช้ชีวิต สร้าง Ecosystem เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า และยังเป็นการรักษาความเชื่อมั่นซึ่งเป็นสินทรัพย์สำคัญของธนาคารด้วย”

 3. สร้างแพลตฟอร์มโดยจับมือกับพันธมิตรหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมรถยนต์ โรงพยาบาล เพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าได้หลากหลายมิติมากขึ้น  ซึ่งสิ่งที่ธนาคารจะได้จากการสร้างแพลตฟอร์มคือ 1. รายได้ที่ยังไม่ถูกคู่แข่งแย่งชิงไป 2. ข้อมูลที่สามารถนำมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การให้บริการลูกค้าได้ นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งปันข้อมูลบางส่วนกับพันธมิตร เพื่อให้ทั้ง Ecosystem เติบโตไปพร้อมๆกันได้

4. ธนาคารจะเพิ่มจำนวนหัวกะทิด้านไอทีให้มากขึ้น ธนาคารหลายชั้นนำหลายแห่งทั่วโลกพยายามผลักดันตัวเองให้ก้าวขึ้นมาทัดเทียมกับยักษ์ไอทีของโลก จากอดีตที่ธนาคารจะมีบุคลากรด้านไอทีในองค์กรเพียง 3% แต่ปัจจุบันธนาคารจะเพิ่มบุคลากรเหล่านี้ให้มีสัดส่วนประมาณ 10% เพราะเทคโนโลยีจะเป็นกุญแจสำคัญของอุตสาหกรรมธนาคารในอนาคต

นายเชา รัน กล่าวต่อว่า แม้ว่าแนวโน้มของอุตสาหกรรมธนาคารจะมุ่งไปในทิศทางที่ค่อนข้างดี แต่ก็ยังมีความท้าทายที่ต้องฝ่าฟันไปให้ได้ 3 เรื่องคือ

1. Big Tech จะเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งมาก ในภูมิภาคเอเชียนั้น เกิดยักษ์ใหญ่ด้านไอทีขึ้นมาหลายราย ไม่ว่าจะเป็น Tencent, alibaba หรือ Gojek ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีศักยภาพทางด้านดิจิทัลสูงมาก และมีความสามารถในการให้บริการทางการเงินในรูปแบบใหม่ๆที่ตรงใจผู้บริโภคได้ ทำให้เกิด Disruption ครั้งสำคัญในอุตสาหกรรม

“แม้ความเชื่อมั่นจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนยุคก่อน แต่คนรุ่นใหม่นั้นเติบโตและผูกพันกับ Big Tech มากกว่าธนาคาร เพราะ Big Tech นั้นอยู่ในทุกการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ความเชื่อมั่นของธนาคารจะไม่ได้ถูกลดทอนลง แต่คนจะเชื่อใจคู่แข่งอื่นมากขึ้น นั่นจึงทำให้ธนาคารต้องเตรียมรับมือสถานการณ์นี้โดยเร็ว”

 2. การหาหัวกะทิทางเทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบุคลากรรุ่นใหม่ที่เพิ่งจบจากรั้วมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่มักจะมีเป้าหมายไปที่การได้ร่วมงานกับ Big Tech ชั้นนำของโลก แทนที่จะมาทำงานกับธนาคาร ทำให้แม้ธนาคารจะต้องการบุคลากรด้านไอทีอย่างมาก แต่การจะได้คนเหล่านี้มาร่วมงาน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

3. ระเบียบข้อบังคับยังไม่เอื้อพอให้เกิดนวัตกรรม ด้วยข้อกำหนดที่เข้มงวดของธนาคารกลางในภูมิภาคเอเชีย ยกเว้นประเทศสิงคโปร์ โดยเฉพาะเรื่องของการเข้าถึงข้อมูลลูกค้าและวิธีนำไปใช้งาน ซึ่งประเด็นนี้ยังไม่มีความชัดเจนมากพอ ทำให้ธนาคารไม่กล้าที่จะลงทุนเทคโนโลยีใหม่ๆเพราะกลัวผิดข้อบังคับ

นายเชา รัน กล่าวว่า เวลานี้คู่แข่งสำคัญอย่าง Big Tech ได้เปลี่ยนผ่าน (Transition) จากยุคอินเทอร์เน็ตมาสู่ดิจิทัล และเทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลมาใช้ร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ๆอย่าง 5G หรือ IoT ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ขณะที่ธุรกิจธนาคารนั้น การทำเพียง Transition นั้นไม่เพียงพอ แต่จำเป็นต้องมีการยกเครื่องใหม่ทั้งหมด (Transformation) เพื่อที่จะอยู่รอดต่อไปในอนาคต  

สิ่งที่ 4 ธนาคารใหญ่ในประเทศจีนทำคือ การตั้งบริษัทในเครือที่เป็นบริษัทเทคโนโลยีเต็มตัว เนื่องจากทราบดีว่าหากไม่ทำเช่นนี้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคดิจิทัลได้ การตั้งบริษัทเหล่านี้ขึ้นมาก็เพื่อที่จะท้าทายตัวเอง ด้วยการสร้าง Ecosystem ใหม่ขึ้นมา

นอกจากนี้ยังเปิดให้ทุกคนสามารถนำเสนอไอเดียใหม่ๆได้ แม้ว่าจะเป็นไอเดียที่ท้าทายธุรกิจตัวเองก็ตาม หรือการให้พนักงาน 3-5 คนตั้งกลุ่มเพื่อเสนอไอเดียใหม่ที่อาจต่อยอดไปสู่การเป็นสตาร์ตอัพได้ รวมถึงการตั้งคณะกรรมการที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการพิจารณาไอเดียใหม่ๆโดยเฉพาะ ตลอดจนธนาคารเข้าไปลงทุนในสตาร์ตอัพที่เห็นว่ามีโอกาสเติบโตสูง

นายเชา รัน กล่าวต่อว่า การทำ Digital Transformation จะทำให้ธนาคารกลายมาเป็นผู้เล่นในตลาดดิจิทัลอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินในช่องทางดิจิทัล หรือโมบายล์แบงกิ้งเพียงอย่างเดียว ในอนาคตธนาคารจะเปลี่ยนสถานะจากธนาคารกลายเป็นบริษัทดิจิทัล เทคโนโลยีจะเข้ามาเป็นพื้นฐานของบริการทางการเงินทั้งหมด ภาพของธนาคารในรูปแบบเดิมๆจะหายไปภายใน 5 ปี เปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็นดิจิทัลแบงกิ้งเต็มรูปแบบ

สำหรับธุรกิจฟินเทคสตาร์ตอัพในภูมิภาคเอเชียนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากที่จะไปต่อได้ เพราะในช่วงของการบ่มเพาะและพัฒนา มีระเบียบข้อบังคับจากหน่วยงานกำกับดูแล สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยให้เติบโต ส่งผลให้ฟินเทคสตาร์ตอัพต้องพยายามจับมือกับ ธนาคาร และBig Tech เพื่อนำเสนอองค์ความรู้ หรือโมเดลการวิเคราะห์ใหม่ๆเพื่อให้สามารถเติบโตต่อไปได้ 




August 18, 2020 at 05:47PM
https://ift.tt/34jrGbM

ธอทเวิร์กเผยเทรนด์โลกการเงิน เมื่อ Invisible Banking กำลังมา - การเงินธนาคาร

https://ift.tt/3h2hF6O


Bagikan Berita Ini

0 Response to "ธอทเวิร์กเผยเทรนด์โลกการเงิน เมื่อ Invisible Banking กำลังมา - การเงินธนาคาร"

Posting Komentar

Diberdayakan oleh Blogger.