การมอบของขวัญทางการเงินให้พ่อแม่
วันที่ 02 ก.ย. 2563 เวลา 07:09 น.
คอลัมน์ ตลาดนัดการเงิน โดย...K-Expert อิสราภรณ์ บูรณิกานนท์ ที่ปรึกษาการเงิน ธนาคารกสิกรไทย
การแบ่งเงินรายได้หรือการมอบของขวัญให้คุณพ่อคุณแม่ เนื่องในโอกาสพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นวันปีใหม่ วันสงกรานต์ วันตรุษจีน วันพ่อ วันแม่ ถือได้ว่าเป็นการกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ ที่ท่านได้เลี้ยงดูและส่งเสียลูกๆ จนเรียนจบ ในรูปแบบการมอบเงินรายได้ให้ท่านใช้ในแต่ละเดือน หรือการมอบของขวัญให้แก่ท่านในเทศกาลสำคัญๆ นั้น ไม่ได้มีลักษณะตายตัว ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและความชอบของคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดไม่ได้ต้องการรับรายได้เป็นเงินสด หรือการรับของขวัญที่เป็นรูปธรรมที่สามารถจับต้องได้ อีกทางเลือกหนึ่งที่ลูกๆ สามารถแสดงความกตัญญูรู้คุณให้คุณพ่อคุณแม่ คือการจัดหาของขวัญทางการเงินมอบให้คุณพ่อคุณแม่ ซึ่งสามารถจัดหาได้ในหลายรูปแบบ อาทิ เช่น
1. การออมเงินที่ให้ผลตอบแทนที่ดีให้คุณพ่อคุณแม่ ในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่บางท่าน ไม่อยากรับเป็นเงินสดในแต่ละเดือน ลูกๆ อาจจะใช้วิธีการแบ่งเงินให้ท่านใช้ โดยใช้วิธีการออมที่ให้ผลตอบแทนที่ดี อาจจะเป็นการฝากเงินรายเดือน ด้วยจำนวนเงินเท่าๆ กันทุกเดือน ฝากต่อเนื่อง เช่น เป็นระยเวลา 24 เดือน เงินฝากดังกล่าวมักได้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากประจำทั่วไป และดอกเบี้ยที่ได้รับก็ไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยทั่วไปสามารถฝากขั่นต่ำ 500 บาทในแต่ละเดือน หรือหากคุณพ่อคุณแม่มีอายุ 55-70 ปี ลูกๆ สามารถเก็บเงินออมแต่ละเดือน สะสมให้ได้ยอดขั้นต่ำ จำนวน 100,000 บาท ก็สามารถนำไปฝากในบัญชีเงินฝากประจำผู้สูงอายุ ระยะเวลาการฝาก 30 เดือน ซึ่งปกติมักจะให้อัตราดอกเบี้ยที่สุงกว่าเงินฝากประจำทั่วไป และบางสถานบันการเงินอาจให้ความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุเพิ่มด้วย
2. การลงทุนให้คุณพ่อคุณแม่ ในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่มีเงินใช้จ่ายเพียงพอในแต่ละเดือน ลูกๆ อาจลองสะสมเป็นเงินลงทุนทุกเดือน ด้วยการจัดพอร์ตการลงทุนโดยผ่านแอปพลิเคชันสำหรับการลงทุน ที่ในปัจจุบันสามารถเป็นตัวช่วยจัดการพอร์ตการลงทุนส่วนตัว โดยแอปพลิเคชันสำหรับการลงทุน จะช่วยเลือกกองทุนและวางแผนจัดพอร์ตลงทุน พร้อมคอยปรับพอร์ตการลงทุนตามภาวะตลาด ซึ่งแอปพลิเคชันการลงทุน ส่วนมากมักกำหนดเงื่อนไขการลงทุนครั้งแรก อาทิเช่น ลงทุนเริ่มแรกด้วยจำนวนเงิน 10,000 บาท และสามารถลงทุนเพิ่มรายเดือนในจำนวนที่เท่าๆ กัน เช่น จำนวนเงิน 1,000 บาท เป็นต้น ซึ่งหากเป็นการตั้งเป้าหมายการลงทุนให้คุณพ่อคุณแม่ที่อายุมากแล้วหรืออยู่ในวัยใกล้เกษียณอาจกำหนดความเสี่ยงในระดับต่ำก็ได้ การที่เราตั้งใจเก็บเงินให้ท่านผ่านการลงทุน อาจช่วยให้ท่านหันมาสนใจและค่อยๆ ศึกษาเรื่องการลงทุน ทำให้ท่านเริ่มเปิดใจกับการลงทุน ผ่านผลตอบแทนจากพอร์ตของท่านเอง โดยลูกๆ คอยติดตามและอัพเดทสถานการณ์การลงทุนให้ท่านทราบเป็นระยะๆ เช่น ในวันที่ผลตอบแทนติดลบ ก็ชี้แจงให้ท่านทราบว่าตลาดช่วงนี้เป็นยังไง มีเหตุการณ์อะไรมากระทบ ทำไมถึงติดลบ หรือในวันที่ผลตอบแทนเป็นบวก ก็ควรแจ้งการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุนให้ท่านทราบ ซึ่งเชื่อว่าท่านน่าจะดีใจ ลูกๆ ก็อาจเล่าให้ฟังว่า ภาวะเศรษฐกิจช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง และเมื่อถึงวันที่ท่านเกษียณ ได้รับเงินบำนาญจากประกันสังคม หรือเงินก้อนจากการเกษียณ ท่านจะได้มีความรู้เรื่องการลงทุน และอยากนำเงินบำนาญจากประกันสังคม หรือเงินก้อนจากการเกษียณ มาลงทุนเพิ่มในพอร์ตการลงทุน
3. การทำประกันสุขภาพ เพื่อแสดงถึงการให้ความเอาใจใส่พ่อแม่ในเรื่องสุขภาพ เมื่อลูกๆ เติบโตขึ้น คุณพ่อคุณแม่ก็จะเริ่มเข้าสู่วัยชราหรือสูงวัย สิ่งที่ตามมาก็คือสุขภาพที่เริ่มเสื่อมลง และมักมีค่าใช้จ่ายที่ตามมา คือ ค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพต่างๆ ดังนั้นการมอบของขวัญที่มีคุณค่าให้ท่าน เพื่อแสดงถึงความห่วงใย คือ การซื้อประกันสุขภาพให้ท่านตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อท่านแก่ชราลง นอกจากนี้ ผู้เป็นลูกที่จ่ายค่าเบี้ยประกันสุขภาพให้บิดามารดา ก็ยังสามารถนำเบี้ยประกันสำหรับกรมธรรม์ประกันสุขภาพ มาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดปีละ 15,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่า คุณพ่อคุณแม่ต้องมีเงินได้พึงประเมินไม่เกินปีละ 30,000 บาท และหากลูกๆ หลายคนร่วมกันซื้อประกันสุขภาพให้พ่อแม่ในกรมธรรม์เดียวกัน ลูกทุกคนสามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพไปลดหย่อนโดยเฉลี่ยจากเบี้ยประกันที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกินปีละ 15,000 บาท
4. ช่วยวางแผนเก็บเงินหลังเกษียณให้กับคุณพ่อคุณแม่ เพื่อให้ท่านมีชีวิตหลังเกษียณอย่างเกษม ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่เกษียณอายุ ลูกๆ ควรเข้าไปพูดคุยกับท่านถึงเรื่องแผนเก็บเงินเกษียณ โดยเริ่มจากว่า ณ ปัจจุบัน ท่านมีสถานะเป็นอย่างไร และท่านมีแผนจะนำเงินเกษียณเหล่านั้น ออกมาใช้อย่างไร แบบไหนบ้าง ทั้งนี้ หากมีความกังวลว่า เงินเพื่อเกษียณดังกล่าวอาจไม่เพียงพอ หน้าที่ของลูก คือ อาจเติมเงินเพื่อให้ท่านมีเงินเพียงพอใช้ในยามเกษียณ หรืออาจเข้าไปจัดรูปแบบการลงทุนเพื่อเกษียณให้ท่าน โดยแผนการลงทุนเพื่อเกษียณ ก็ควรจะมีความเสี่ยงในระดับที่สอดคล้องกับช่วงอายุของพ่อแม่เป็นหลัก
จะเห็นได้ว่า การแสดงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ไม่จำเป็นต้องเป็นการให้เป็นเงินสด เพื่อให้ท่านใช้เป็นรายเดือน หรือการเลือกหาซื้อของขวัญที่สามารถจับต้องได้อย่างวุ่นวาย รูปแบบการแสดงความกตัญญู สามารถแสดงออกด้วยการมอบของขวัญทางการเงิน ที่เป็นหลักประกันในระยะยาวเพื่อมอบให้แก่คุณพ่อคุณแม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาความเหมาะสม และพฤติกรรมเรื่องการเงินของคุณลูกๆ และคุณพ่อคุณแม่ ถึงแม้วิธีการมอบของขวัญทางการเงินให้แก่คุณพ่อคุณแม่ อาจไม่ได้เป็นจำนวนเงินมากมาย แต่ก็เป็นเครื่องแสดงถึงความกตัญญูกตเวที ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลให้คุณพ่อคุณแม่มีความปลาบปลื้มใจ และมีหลักประกันระยะยาวในช่วงที่ท่านยังดำรงชีวิตอยู่
ผลิตภัณฑ์/บริการ ของ KBank หรือ KGroup
• Wealth Plus : www.kasikornbank.com/th/personal/Digital-banking/Pages/wealth-plus.aspx
• สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบอีลิท เฮลท์ พลัส : www.kasikornbank.com/th/personal/Insure/life/Pages/elitehealth.aspx
• บัญชีเงินฝากประจำซูเปอร์ ซีเนียร์ : www.kasikornbank.com/th/personal/Account/Pages/super-senior.aspx
• บัญชีเงินฝากทวีทรัพย์ : www.kasikornbank.com/th/personal/Account/Pages/taweesup.aspx
บทความที่เกี่ยวข้อง
• ใส่ใจเรื่องบ้านและเรื่องเงินเพื่อวัยเก๋า : www.kasikornbank.com/th/k-expert/knowledge/articles/retirement/Pages/Retire_A044.aspx
• เกษียณสนุกในยุค Gig Economy : www.kasikornbank.com/th/k-expert/knowledge/articles/retirement/Pages/Retire_A051.aspx
• อยู่กับวัยเกษียณอย่างเกษม : www.kasikornbank.com/th/k-expert/knowledge/articles/retirement/Pages/Retire_A046.aspx
September 02, 2020 at 07:15AM
https://ift.tt/31NmUBJ
การมอบของขวัญทางการเงินให้พ่อแม่ - โพสต์ทูเดย์
https://ift.tt/3h2hF6O
Bagikan Berita Ini
0 Response to "การมอบของขวัญทางการเงินให้พ่อแม่ - โพสต์ทูเดย์"
Posting Komentar